พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 77. สังกิลิฏฐทุกะ 7. ปัญหาวาร
77. สังกิลิฏฐทุกะ 7. ปัญหาวาร
1. ปัจจยานุโลม 1 วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[51] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กิเลส
ทำให้เศร้าหมองโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์โดยเหตุปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้
เศร้าหมองโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นปัจจัยแก่จิตต-
สมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กิเลสทำให้
เศร้าหมองและไม่ทำให้เศร้าหมองโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่กิเลสทำให้เศร้าหมอง
เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย (3)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำ
ให้เศร้าหมองโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (1)
อารัมมณปัจจัย
[52] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กิเลส
ทำให้เศร้าหมองโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลยินดีเพลิดเพลินราคะ เพราะ
ปรารภความยินดีเพลิดเพลินราคะนั้น ราคะ ฯลฯ ทิฏฐิ ฯลฯ วิจิกิจฉา ฯลฯ
อุทธัจจะ ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น ยินดีทิฏฐิ ฯลฯ (เหมือนกับกุสลติกะ) เพราะ
ปรารภวิจิกิจฉา ฯลฯ เพราะปรารภอุทธัจจะ ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิ ฯลฯ
วิจิกิจฉา ฯลฯ อุทธัจจะจึงเกิดขึ้น (1)
พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 77. สังกิลิฏฐทุกะ 7. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้
เศร้าหมองโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระอริยะพิจารณากิเลสที่ละได้แล้ว
พิจารณากิเลสที่ข่มได้แล้ว รู้กิเลสที่เคยเกิดขึ้น ฯลฯ เห็นแจ้งขันธ์ที่กิเลสทำให้
เศร้าหมองโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ รู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิต
ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองด้วยเจโตปริยญาณ ขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นปัจจัย
แก่เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ยถากัมมูปคญาณ อนาคตังสญาณ
และอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย (2)
[53] สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กิเลส
ไม่ทำให้เศร้าหมองโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษา
อุโบสถ ฯลฯ พิจารณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว ฯลฯ ออกจากฌานแล้วพิจารณาฌาน
พระอริยะออกจากมรรคแล้วพิจารณามรรค ฯลฯ เป็นปัจจัยแก่อาวัชชนจิตโดย
อารัมมณปัจจัย บุคคลเห็นแจ้งจักษุ ฯลฯ หทัยวัตถุ และขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้
เศร้าหมองโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ เห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฯลฯ เป็นปัจจัย
แก่อนาคตังสญาณและอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กิเลสทำให้
เศร้าหมองโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล ฯลฯ ออก
จากฌาน ฯลฯ ยินดีเพลิดเพลินจักษุ ฯลฯ หทัยวัตถุและขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้
เศร้าหมอง เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินจักษุเป็นต้นนั้น ราคะ ฯลฯ โทมนัส
จึงเกิดขึ้น (2)
อธิปติปัจจัย
[54] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กิเลสทำ
ให้เศร้าหมองโดยอธิปติปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลยินดีเพลิดเพลินราคะให้เป็นอารมณ์อย่างหนัก
แน่นเพราะทําความยินดีเพลิดเพลินราคะนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะ